อาหารมังสวิรัติดีอย่างไร |
1. สอดคล้องกับธรรมชาติ ร่างกายมนุษย์เหมาะแก่การกินพืชเป็นอาหารหลักมากกว่ากินสัตว์ เห็นได้ชัดจากลักษณะฟันที่ไม่แหลมคมเหมือนสัตว์กินเนื้อเช่น เสือ ฉลาม ฯลฯ และลำไส้ของมนุษย์นั้นเป็นแบบสัตว์กินพืชคือยาวคดเคี้ยวเพื่อช่วยในการย่อย ขณะที่ลำไส้ของสัตว์กินสัตว์จะสั้น ดังนั้นเมื่อเรากินมังสวิรัติ จึงรู้สึกเบาสบายตัว 2. สุขภาพแข็งแรงและอายุยืน พืชมีสารอาหารครบถ้วนเพียงพอสำหรับความจำเป็นของร่างกาย สามารถ ป้องกันและช่วยรักษาโรค เนื้อสัตว์มีไขมันและคลอเรสเตอรอลสูง เสี่ยงต่อการเกิดโรคหลายชนิด เช่น โรคอ้วน โรคหัวใจ โรคไขมันในเส้นเลือด โรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็ง ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีโรคที่เกิดจากการกินเนื้อสัตว์ที่มีเชื้อโรคเช่น โรควัวบ้า ไข้หวัดนก ฯลฯ 3. พัฒนาจิตใจ มีสติในการใช้ชีวิต มีความเข้มแข็ง ความมั่นใจ สามารถเอาชนะกิเลสตัณหา เกิดความสงบเย็น ความรักความเมตตา ความอ่อนโยน คิดถึงผู้อื่น ใจเขาใจเรา (สัตว์มีความรู้สึกเจ็บปวด กลัวตาย เช่นเดียวกับเรา) 4. เป็นหลักธรรมของศาสนาต่าง ๆ ศีลข้อที่หนึ่งของศาสนาพุทธคือห้ามฆ่าสัตว์ แสดงถึงความสำคัญอย่างยิ่ง พระพุทธเจ้าจึงบัญญัติเรื่องนี้เป็นศีลข้อแรก ถึงเราไม่ได้ฆ่าเอง แต่ถ้าเรายังกินเนื้อสัตว์ก็เท่ากับส่งเสริมให้มีการฆ่าสัตว์ ในคัมภีร์ลังกาวตารสูตรของพุทธศาสนาฝ่ายมหายานกล่าวว่า “เนื้อย่อมเกิดมาจากเลือดและน้ำอสุจิ เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นสิ่งไม่ควรบริโภค” ศาสนายิว ศาสนาสิข ศาสนาเชนและศาสนาฮินดูนิยมกินมังสวิรัติ ศาสนาอิสลามห้ามการกินเนื้อสัตว์บางชนิด ศาสนาคริสต์ตอนสร้างมนุษย์ พระเจ้าตรัสแก่มนุษย์ว่า“เราให้พืช ... เป็นอาหารของเจ้า” (ปฐมกาล 1:26, 29) และพระเยซูสอนว่า “... ผู้ใดมีใจกรุณา ผู้นั้นเป็นสุข” “จงปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างที่ท่านปรารถนาให้เขาปฏิบัติต่อท่าน” “เราประสงค์ความเมตตา ไม่ประสงค์เครื่องสัตวบูชา” (มัทธิว 5:7, 7:12, 9:13) 5. ประหยัด พืชมีราคาถูกกว่าเนื้อสัตว์ มังสวิรัติจึงส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียง 6. รักษาสิ่งแวดล้อม ลดพื้นที่ทำลายป่าเพื่อปลูกพืชเป็นอาหารสัตว์ ลดมลพิษจากการเลี้ยงสัตว์และอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ ช่วยลดโลกร้อน
|
Friday, August 21, 2009
อาหารมังสวิรัติดีอย่างไร
Tuesday, July 14, 2009
กินมังสวิรัติลดโอกาสเป็นมะเร็งเกือบครึ่ง
|
Tuesday, June 23, 2009
ยืดอายุด้วยโยเกิร์ต
โยเกิร์ต Yogurt
11 สารอาหารในโยเกิร์ต
เชื่อหรือไม่ว่าการกินโยเกิร์ตนั้นให้โปรตีนและแคลเซียมในปริมาณสูงกว่าการกินนม เพราะกรดแลคติกในโยเกิร์ตจะย่อยแคลเซียมในนม ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น ทั้งยังเป็นแหล่งรวมของวิตามินและแร่ธาตุอื่นๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการเพื่อเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง
ในโยเกิร์ตชนิดไขมันต่ำ 1 ถ้วยมีสารอาหารมากถึง 11 ชนิด ได้แก่ไอโอดีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินบี 2 โปรตีน วิตามินบี 12 ทริปโทฟาน โปแตสเซียม โมลิปเดนัม สังกะสี และวิตามินบี5 จึงไม่น่าแปลกใจที่โยเกิร์ตเป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ชาวบัลแกเรียซึ่งกินโยเกิร์ตเป็นประจำอายุยืน เพราะ...
- โยเกิร์ตมีแคลเซียมสูง จึงช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ความดันโลหิตสูง มะเร็งในลำไส้ใหญ่ ช่วยในการลดน้ำหนักและเพิ่มการเผาผลาญไขมัน
- มีเชื้อแลคโตบาสิลัส ที่ช่วยลดการอักเสบของลำไส้และไขข้อ และเชื้อจุลินทรีย์ที่ดีในโยเกิร์ตยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ ‘เฮลิโคแบคเตอร์ เอชไพโลไร’ ที่ทำให้เกิดโรคกระเพาะ
- มีกรดไขมันคอนจูเกตเต็ดไลโนเลอิค ช่วยป้องกันโรคหัวใจ
- กินโยเกิร์ตะวันละ 2-5 ถ้วย สามารถช่วยลดระดับ ‘แกซไฮโดรเจรซัลไฟด์’ ที่ทำให้ลมหายใจมีกลิ่น พร้อมลดความเสี่ยงของโรคเหงือก
- โยเกิร์ตมีแบคทีเรียมีชีวิต ช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์วิตามินบีและวิตามินเคในลำไส้ ซึ่งจากงานวิจัยพบว่าสามารถช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
- กินโยเกิร์ตวันละ 8 ออนซ์เป็นเวลา 6 เดือน สำหรับผู้หญิงที่ติดเชื้อยีสต์ในช่องคลอดบ่อยๆ การติดเชื้อจะลดลงถึง 3 เท่า
แล้วกินอย่างไรให้อายุยืน?
โยเกิร์ตรสชาติดั้งเดิมของชาวบัลแกเรียไม่ใส่น้ำตาลและมีรสเปรี้ยว แต่ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่มีขายตามท้องตลาดจะมีรสหวานเนื่องจากผสมน้ำตาลหรือน้ำเชื่อมลงไปด้วย ดังนั้นการกินโยเกิร์ตรสธรรมชาติจึงให้ผลดีกับร่างกายที่สุด แต่ถ้านำมาผสมกับผลไม้สด หรือปั่นรวมกับผลไม้และนมก็จะได้อาหารที่มีพลังงานเพียงพอถึงเที่ยงเลยทีเดียวค่ะ ส่วนใครที่ชอบทางสลัดหรือแซนด์วิช ใช้โยเกิร์ตแทนน้ำสลัดแบบมายองเนสก็อร่อยไม่แพ้กัน
มาทำโยเกิร์ตด้วยตัวเอง
นำนมสดรสจืด 1 ลิตรต้มด้วยไฟปานกลาง เมื่อเดือดอ่อนๆ ทิ้งไว้จนอุณหภูมิลดเหลือประมาณ 40 องศาเซลเซียส เติมโยเกิร์ตรสธรรมชาติลงไป 1 ถ้วย คนให้เข้ากันแล้วเทใส่ภาชนะที่มีฝาปิด วางทิ้งไว้นอกตู้เย็น 1 คืน (ถ้าชิมแล้วยังไม่เปรี้ยวให้ทิ้งไว้อีก 2-3 ชั่วโมงจนได้รสชาติที่ต้องการ) จากนั้นนำไปแช่ในตู้เย็น เก็บไว้รับประทานได้ 3 วัน
รูปภาพจาก getty images
Wednesday, May 27, 2009
อาหารต้านเซลลูไลท์
|
ใครที่ไม่อยากให้ผิวมี เซลลูไลท์ มากเกินไป วันนี้เกร็ดความรู้มีอาหารต้าน เซลลูไลท์ มาบอกกัน....
|
Friday, February 6, 2009
กระเทียม : ยาฆ่าเชื้อและลดโคเลสอเตอรอล
| |||
|